วันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

งานมหัศจรรย์ แสง สี เสียง สืบสานตำนานพันปีปราสาทศีขรภูมิ ประจำปี 2557



เทศบาลตำบลศีขรภูมิ จัดงานมหัศจรรย์ แสง สี เสียง สืบสานตำนานพันปีปราสาทศีขรภูมิ ประจำปี 2557

นายบรรจง พิชญาสาธิต นายกเทศมนตรีตำบลศีขรภูมิ

นายบรรจง พิชญาสาธิต นายกเทศมนตรีตำบลศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ในทุกปีของเดือนพฤศจิกายน ซึ่งตรงกับการจัดงาน “มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์” เทศบาลตำบลศีขรภูมิ ได้จัดงานสืบสานตำนานพันปีปราสาทศีขรภูมิ ขึ้น โดยในปีนี้กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 14-15 พฤศจิกายน 2557 ที่บริเวณองค์ปราสาทศีขรภูมิ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ และเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป สำหรับปีนี้ถือว่าจัดอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกปีมีขบวนแห่ศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองจำลองวิถีชีวิตกลุ่มชุมชนชาว เขมร ลาว กุย และ จีน มีพิธีบวงสรวงองค์ปราสาทศีขรภูมิ นิทรรศการแสดงวิถีชีวิตวัฒนธรรม ของชุมชนชาวพื้นเมืองชีวิตดั้งเดิม การแสดงจากสถานศึกษา และชุมชน ต่างๆ ในเขตเทศบาล การแสดงดนตรีไทย การจำหน่ายสินค้าของฝากของที่ระลึก และของดีศีขรภูมิ และไฮไลต์ของงานคือ การแสดงประกอบ แสง สี เสียงที่ยิ่งใหญ่อลังการ ในปีนี้มีชื่อว่าศิวเวทเทวาลัย มนต์ไผทพุทธานุภาพ โดยนักศึกษาจากวิทยาลัยการอาชีพศีขรภูมิ ร่วมแสดง






ทั้งนี้ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่เทศบาลตำบลศีขรภูมิ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ราคาบัตรนั่งชมการแสดง ราคา 100 บาท จำหน่ายบัตรนั่งชมการแสดง (โต๊ะจีน) ราคาโต๊ะละ 2,900 บาท โทรศัพท์ 044-561-243 โทรสาร 044-560-088 สำหรับปราสาทศีขรภูมิหรือปราสาทบ้านระแงง ตั้งอยู่ที่บ้านปราสาท ตำบลระแงง อำเภอศีขรภูมิ ห่างจากตัวเมืองจังหวัดสุรินทร์ประมาณ 34 กิโลเมตร ถนนสุรินทร์-ศรีสะเกษ มีลักษณะเป็นปรางค์หมู่ 5 องค์ เป็นปราสาทก่ออิฐไม่สอปูนตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกันโดยตัวฐานก่อด้วยศิลาแลงกว้าง 25 เมตร ยาว 26 เมตร สูง 1.5 เมตร โดยมีคูน้ำกว้าง 125 เมตร ล้อมรอบสามด้าน
โดยเว้นด้านตะวันออกอันเป็นทางเข้าไว้ ปรางค์ประธานสูงประมาณ 32 เมตร ทับหลังเป็นภาพพระศิวนาฏราชสิบกร ทรงฟ้อนรำอยู่เหนือเกียรติมุข ภายใต้วงโค้งลายท่อนมาลัย ซึ่งสลักเป็นภาพพระคเณศ พระพรหม พระวิษณุ และพระอุมาโดยทับหลังชิ้นนี้นับเป็นทับหลังที่มีความสวยงามและสมบูรณ์ที่สุดชิ้นหนึ่งของเมืองไทย บริเวณเสากรอบประตูสลักเป็นรูปนางอัปสรถือดอกบัว และทวารบาลยืนกุมกระบอง ซึ่งนางอัปสราที่ปราสาทศีขรภูมินี้มีลักษณะคล้ายกับนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด ประเทศกัมพูชา ซึ่งไม่พบที่ปราสาทศิลปะเขมรโบราณแห่งใดอีกเลยในประเทศไทย พบที่ปราสาทศีขรภูมิเพียงแห่งเดียวเท่านั้น


ส่วนปรางค์บริเวณทับหลัง 2 ชิ้น ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมายเป็นภาพกฤษณาวตารทั้ง 2 ชิ้น ชิ้นหนึ่งเป็นภาพ กฤษณะฆ่าช้างและราชสีห์ ส่วนอีกชิ้นหนึ่งเป็นภาพกฤษณะฆ่าราชสีห์ มีลักษณะปนกันระหว่างศิลปะขอมแบบปาปวน (1550-1650) และแบบนครวัด(1650-1700) ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษต้นสมัยนครวัด สร้างขึ้นในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกายมีการบูรณะปฏิสังขรณ์ในราวพุทธศตวรรษที่ 22 ในสมัยอยุธยาตอนปลาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น